view

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

สรุปสาระสำคัญการอบรม โดย ผศ.ประเสริฐ แซ่เอี๊ยบ ( 21 เมษายน 2557 )


   เรียบเรียง : น.ส.สรารัตน์ เพชรศิริ    ( 2496 )    วันที่ 21 เมษายน 2557

      อาจารย์ได้บรรยายเกี่ยวกับการจำแนกสื่อการสอน หลักการเลือกสื่อการสอน การวางแผนอย่างเป็นระบบในการใช้สื่อการสอน ( Assure ) จากนั้นให้แต่ละกลุ่มศึกษาบทความ หรือข่าว ที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ และร่วมกันอภิปราย วางแผนในการใช้สื่อการสอน ( Assure ) ซึ่งสามารถสรุปการวางแผนในการใช้สื่อการสอน ได้ดังนี้


บทความ  ไอซีทีเตือนภัย แฮกเกอร์ล้วงอีเมล์


          
            ไฮซีทีเผยมีผู้แจ้งถูกเจาะข้อมูลอีเมล์ 10 กว่าราย ปลอมตัวเป็นเจ้าของอีเมล์หวังหลอกลวงให้ส่งเงิน ระบุตรวจสอบลำบาก แต่หากจับได้มีความผิดเข้าข่ายมาตรา 5 และ 7 ใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ฯ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ 


          นายวินัย อยู่สบาย ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ใช้อีเมล์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฮอทเมล์และยาฮู เป็นต้น แจ้งเรื่องร้องเรียนเข้ามายังกระทรวงไอซีทีประมาณ 10 ราย ซึ่งมีปัญหาในลักษณะเดียวกันคือ ถูกแฮกเกอร์หรือนักเจาะข้อมูลในอีเมล์ปลอมแปลงตัวเป็นเจ้าของอีเมล์นั้น แล้วเขียนข้อความว่ากำลังความเดือดร้อนเรื่องเงินอย่างหนัก ส่งไปยังรายชื่ออีเมล์ที่เรารู้จักหรือติดต่ออยู่นั้น เพื่อหลอกลวงให้ส่งเงินไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยมีการแก้ไขรหัสผ่านเพื่อไม่ให้ผู้เป็นเจ้าของอีเมล์เข้าใช้งานได้อีก
          นายวินัยกล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นการกลั่นแกล้งจากเพื่อนหรือบุคคลใกล้ชิดที่รู้รหัสผ่านอีเมล์  หรือขโมยรหัสผ่านซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นอีเมล์สาธารณะ โดยมีรูปแบบเข้าไปเปลี่ยนรหสัผ่านโดยที่เจ้าของไม่สามารถเข้าอีเมล์ของตัวเองได้ ทั้งนี้จากการใช้อีเมล์แล้วมีผู้มาเจาะข้อมูลนั้นเป็นเรื่องที่ตรวจสอบยาก แต่ก็สามารถดำเนินการเอาความผิดต่อผู้ที่กระทำความผิดได้ หากเจ้าของอีเมล์สามารถยืนยันกับผู้ให้บริการอีเมล์ว่า ได้สมัครโดยใช้ชื่ออีเมล์นี้อย่างถูกต้อง 


          "วิธีการตรวจสอบค่อนข้างยุ่งยาก เพราะผู้ใช้บริการต้องยืนยันข้อมูลแรกที่ได้กรอกลงไปยังใบสมัครเพื่อขอให้ปิดอีเมล์หรือขอรหัสผ่านคืน  แต่ถ้าหากส่งข้อมูลผิดหรือจำไม่ได้ก็แก้ไขลำบาก ส่วนถ้าเป็นการขโมยรหัสผ่านหรือเจาะข้อมูลของอีเมล์กลางหน่วยงานภาครัฐ ทางกระทรวงไอซีทีสามารถดำเนินการเอาความผิดได้ทันที" ผอ.สำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกล่าว
          อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีผู้เจาะข้อมูลหรือขโมยรหัสผ่านเพื่อกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ในมาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงในระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันโดยมิชอบ และการเข้าถึงนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันโดยมิชอบ อีกทั้งการเข้าถึงนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


อ้างอิงจาก http://hilight.kapook.com/view/26744 


ศึกษาปัญหาข้อมูล วิเคราะห์ เรื่อง ไอซีทีเตือนภัย แฮกเกอร์ล้วงอีเมล์

จัดทำโดย
1.  นางสาวจันจิรา  จันทร์ทอง                                                                  
2.  นางสาวนันทรัตน์  อ่วมสอาด                                                               
3.  นางสาวสรารัตน์  เพชรศิริ                                                                   
4.  นายอิทธิเดช  ไทรชมภู                                                            
5.  นายภากร  สมแสวง                                                                           
6.  นางสาวสาธิยา  เปรื่องเจริญ                                                                
7.  นายเทพมนต์  ม่วงกล่ำ           

1.    ชื่อเรื่อง ไอซีทีเตือนภัย แฮกเกอร์ล้วงอีเมล์

        ในปัจจุบันมรการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะเดียวกันการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มีทั้งประโยชน์ ร่วมถึงโทษและภัยอันตรายต่างๆ จากการใช้ นายวินัยอยู่สบาย ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่าขณะนี้มีผู้ใช้อีเมล์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ถูกเจาะข้อมูลอีเมล์ 10 กว่าราย ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการถูกแฮกข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องการเงิน เป็นปัญหาหนัก ณ ตอนนี้นายวินัย อยู่สบาย จึงออกมากล่าวบอกถึงโทษผู้กระทำความผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ต้องจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.    ระบุผู้เรียน

ผู้เรียน คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 คน
วิชาที่สอน คือ วิชา คอมพิวเตอร์

3.    วัตถุประสงค์

3.1.วัตถุประสงค์ทั่วไป คือ
       3.1.1 ให้นักเรียนรู้จักภัยอันตรายจาก E-mail
       3.1.2 ให้นักเรียนจักวิธีการป้องกันภัยทาง E-mail
3.2. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม คือ
       3.2.1 ให้นักเรียนเปลี่ยนรหัสผ่าน E-mail
       3.2.2 นักเรียนสามารถล้างรหัสประวัติการใช้งานทาง Internet ได้

4.    การเลือกสื่อที่มีอยู่แล้ว

สื่อที่ใช้ในครั้งนี้ คือ วิธีการ/กระบวนการใช้งานทาง Internet เป็นสื่อที่มีอยู่แล้ว โดยเปิดตามลิ้งที่ครู
กำหนดให้,คอมพิวเตอร์, E-mail

5.    การใช้สื่อ/ขั้นตอนการสอน ดังนี้

5.1 ให้นักเรียนค้นคว้าหาข้อมูล จาก Internet ในหัวข้อเรื่อง อันตรายจากการใช้ระบบสารสนเทศไอซีที
5.2 ให้นักเรียนนำข้อมูลที่ได้มาตอบคำถามดังนี้
       5.2.1 อันตราย หรือภัยที่เกิดขึ้นจากการใช้ระบบทางไอซีที มีอะไรบ้าง
       5.2.2 วิธีการป้องกัน การใช้ระบบไอซีที หรือการแฮกข้อมูล มีกี่วิธี
5.3 ครูอธิบายเนื้อหาเมเติม เกี่ยวกับอันตรายและวิธีการป้องกัน
5.4 ให้นักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนถึงอันตรายและวิธีการป้องกันการใช้ระบบไอซีที
5.5 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผล ได้วิธีการป้องกันโดยมีหลักการการตั้งรหัสผ่าน ต้องตั้งรหัสผ่านเป็นตัวอักษรผสมกับตัวเลขที่คาดเดาได้ยาก และควรมีจำนวนอย่างต่ำ 8 อักษร

6.    การกำหนดการตอบสนองของผู้เรียน

ให้นักเรียนฝึกเปลี่ยนรหัสผ่าน E-mail ที่คาดเดาได้ยากเป็นรายบุคคล
ให้นักเรียนฝึกล้างประวัติการใช้งาน Internet เป็นรายบุคคล

7.    การประเมิน

ให้นักเรียนทดสอบเป็นรายบุคคล เปลี่ยนรหัสผ่าน E-mail ที่คาดเดาได้ยาก
ให้นักเรียนทดสอบเป็นรายบุคคล ล้างประวัติการใช้งาน Internet

            ช่วงบ่าย อาจารย์ได้สอนการทำบทเรียนโปรแกรม ซึ่งบทเรียนโปรแกรม มีลักษณะที่สำคัญ ดังนี้
1.      ให้นักเรียนมีส่วนร่วมอย่างกระฉับกระเฉง
2.      ให้ผลย้อนกลับทันที
3.      ประเมินทีละน้อยๆ
4.      ให้นักเรียนได้รับประสบการณ์แห่งความสำเร็จ
จากนั้น อาจารย์ได้ให้แต่ละกลุ่มออกแบบบทเรียนโปรแกรม ซึ่งสามารถทำได้จาก Microsoft
PowerPoint เป็นโปรแกรมบทเรียนที่นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีแบบฝึกหัดให้ทดสอบเป็นระยะๆ และมีกระบวนการเดินหน้า ย้อนกลับ เมื่อนักเรียนตอบคำถามจากแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง หรือผิด โดยออกแบบ ให้นักเรียนได้รับประสบการณ์แห่งความสำเร็จ เช่น เมื่อตอบถูกจะได้รับคำชม เป็นต้น 





วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

สรุปสาระสำคัญการอบรมช่วงเช้า โดยว่าที่ร้อยตรีหญิง ดร. ชัชญาภา วัฒนธรรม และ ช่วงบ่าย โดย ผศ.ประเสริฐ แซ่เอี๊ยบ ( 20 เมษายน 2557 )

       
       เรียบเรียง : น.ส.สรารัตน์ เพชรศิริ    ( 2496 )    วันที่ 20 เมษายน 2557
      
                    ช่วงเช้าอาจารย์ได้ให้ทำแบบทดสอบ โดยให้ศึกษา ค้นคว้า ข้อมูล นวัตกรรมเทคโนโลยี

       สารสนเทศเกี่ยวกับ  U – Learning  แล้วนำเสนอข้อมูลในประเด็นที่กำหนดลงใน Blog ซึ่งได้จัดทำไว้

       ตามลิงค์ ด้านล่าง 


  Ubiquitous Learning (U–Learning)  



                    ช่วงบ่าย ผศ.ประเสริฐ  แซ่เอี๊ยบ เป็นผู้อบรมเนื้อหาเกี่ยวกับนวัตกรรม  อาจารย์ได้ให้ทำ

        แบบทดสอบก่อนเรียนเป็นกลุ่มๆละ 3 คน โดยให้เขียนคำตอบลงในกระดาษ A4   คำถามมีดังนี้

                                    1.นวัตกรรมเกิดมาจากสาเหตุใดได้บ้าง

                                    2.บุคคลหรือกลุ่มคนใดที่ทำให้เกิดนวัตกรรม

                                    3.นวัตกรรมสิ้นสภาพได้หรือไม่ อย่างไร

หลังจากการฟังบรรยาย ทำให้สามารถสรุปคำตอบได้ ดังนี้

                                    1.สาเหตุของเกิดนวัตกรรม มีดังนี้
1.1    มีการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ หรือปรับปรุงของเก่าให้เหมาะสมกับสภาพงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานให้สูงขึ้น
1.2    มีการพัฒนา ปรับปรุง โดยผ่านการทดลองจนมีประสิทธิภาพ
1.3    มีการนำไปใช้ปฏิบัติในสถานที่จริง ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติใหม่ที่แปลกไปจากที่เคยปฏิบัติมา

                                    2.นวัตกรรมเกิดจากบุคคลสำคัญ 3 ฝ่าย คือ
2.1    นวัตกร  ( Innovators )
2.2    ผู้นำ  ( Leaders )
2.3    ผู้ต่อต้าน ( Resistors )

                                    3. นวัตกรรมสามารถสิ้นสภาพได้ หากมีการปฏิเสธนวัตกรรม ซึ่งเกิดจากสาเหตุ ดังนี้
3.1    ความเคยชินกับวิธีการเดิมๆ
3.2    ความไม่แน่ใจในประสิทธิภาพของนวัตกรรม
3.3    ความรู้ของบุคคล ต่อนวัตกรรม
3.4    ข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ

หากนวัตกรรมได้รับการยอมรับและนำไปบูรณาการกันอย่างกว้างขวาง นวัตกรรมนั้นจะเป็นเทคโนโลยี แต่หากนวัตกรรมไม่ได้รับการยอมรับ ก็จะล้าสมัย และหมดความนิยมไปในที่สุด



วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

แบบทดสอบ นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา น.ส.สรารัตน์ เพชรศิริ 1011002496

   
      Ubiquitous Learning(U–Learning)   

         เรียบเรียง : น.ส.สรารัตน์ เพชรศิริ    ( 2496 )    วันที่ 20 เมษายน 2557



        ความหมายของ Ubiquitous Learning

        Ubiquitous ( ยูบิควิตัส ) เป็นภาษาลาติน มีความหมายว่า อยู่ในทุกแห่ง หรือ มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง Mark Weiser  ได้ให้ความหมายของ   Ubiquitous Computing (ยูบิควิตัสคอมพิวติง) ไว้ว่า หมายถึง  กระบวนการ   บูรณาการ คอมพิวเตอร์เข้ากับ Physical World อย่างไร้ขอบเขต  Ubiquitous Computing หมายรวมถึงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ประเภท microprocessors โทรศัพท์เคลื่อนที่ กล้องดิจิตอล และอุปกรณ์ อื่นๆ นั่นคือ เราสามารถเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศได้ทุกหนทุกแห่ง ในสภาพแวดล้อมที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับเครือข่ายไม่ว่าจะอยู่ในที่ใด
            Ubiquitous Learning  จึงหมายถึง การจัดการเรียนการสอนหรือบทเรียนสำเร็จรูป ที่นำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีเครือข่ายทั้งแบบใช้สายและไร้สาย รวมไปถึงพวกอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการประมวลผลแบบไร้ขอบเขต ผู้เรียนจึงสามารถเรียนได้ทุกที่และทุกเวลา  


ลักษณะที่สำคัญของ Ubiquitous Learning
           
       1. Anywhere, Anytime and Anybody คือ ผู้เรียนจะเป็น    ใครก็ได้มาจากที่ใดก็ได้และเรียนเวลาใดก็ 
 ได้ตามความต้องการของผู้เรียนเพราะหน่วยงานได้เปิด     เว็บไซต์ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
       .2. Multimedia สื่อ ที่นำเสนอในเว็บประกอบด้วยข้อความ    ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวและเสียง ตลอดจน  
 วีดิทัศน์อันจะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียนได้เป็น  อย่างดี
      3. Non-Linear ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนเนื้อหาที่นำเสนอได้ตามความต้องการ
      4. Interactive ด้วยความสามารถของเอกสารเว็บที่มีจุดเชื่อม Links ย่อมทำให้เนื้อหามีลักษณะโต้ตอบ
  กับผู้ใช้โดยอัตโนมัติอยู่แล้วและผู้เรียนยังเพิ่มส่วนติดต่อกับวิทยากรผ่านระบบเมล์ทำให้ผู้เรียนกับ

  วิทยากรสามารถติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว

            

ข้อดีของ Ubiquitous Learning
           
1.      การเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบไร้สายไม่ว่าผู้ใช้งานจะเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่างๆ ก็สามารถเรียนรู้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา
2.      เป็นการเรียนที่สามารถเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้ ทั้งสถานที่และอุปกรณ์
3.      การนำ U-learning มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน ทำให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์การเรียนแบบกลางแจ้ง และการเรียนในร่ม ตัวอย่างการเรียนกลางแจ้งได้แก่ในส่วนศูนย์กลางของเมือง ในป่า ส่วนการเรียนในร่ม ได้แก่ ในพิพิธภัณฑ์ศูนย์การเรียนรู้ ห้องปฏิบัติการหรือที่บ้าน

ข้อจำกัดของ Ubiquitous Learning

                  การติดตั้งระบบเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และทุกหนทุกแห่ง ต้องใช้การลงทุนที่สูงมาก อีกทั้งจำนวนผู้ใช้บริการ และผู้ที่มีความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยีดังกล่าวยังน้อย จึงไม่คุ้มค่าการลงทุน ทำให้ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนแบบ U – Learning  ได้ทั่วถึง


การประยุกต์ใช้ Ubiquitous Learning ในการเรียนการสอนและในชีวิตประจำวัน

การเรียนการสอนแบบ U-Learning ทำให้ผู้เรียนสามารถแสวงหาข้อมูล และศึกษาสิ่งที่สนใจได้ทุกที่ ทุกเวลา นับเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้เรียนและผู้สอน โดยผู้สอนสามารถเผยแพร่ข้อมูลความรู้ ให้ภาระงานแก่ผู้เรียน ประเมิน ตรวจสอบงานของผู้เรียนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยอาจใช้ช่องทางต่างๆ เช่น Blog  ,  Website ที่จัดทำขึ้นสำหรับการเรียนการสอน สำหรับผู้เรียนก็สามารถติดตามภาระงานที่ผู้สอนมอบหมาย ค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ในเว็บไซต์บนอุปกรณ์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ตามสถานการณ์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา แต่การเรียนการสอนแบบ U-Learning  ในประเทศไทยในปัจจุบันยังไม่เหมาะสมเนื่องจากเป็นการจัดการเรียนการสอนที่ใช้เงินลงทุนสูงถึงแม้ว่าปัจจุบันระบบ GPS และอุปกรณ์สื่อสารที่เรียกว่า PDA จะแพร่หลายโดยทั่วไปแต่ราคาก็ยังค่อนข้างสูงนอกจากนั้นผู้เรียนยังต้องมี sensor ที่สามารถตรวจจับขณะเรียนซึ่งมีราคาสูงเกินไปกว่าที่จะนำมาใช้ลงทุนเพื่อการเรียนในระดับบุคคลได้



แหล่งข้อมูล




ประโยชน์ที่ได้รับและข้อเสนอแนะ จากการอบรมของ ดร.ชัชญาภา วัฒนธรรม


             หลังจากได้รับการอบรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเรื่อง Blog ทำให้ได้ทราบเครื่องมืออีกชนิดหนึ่งที่จะช่วยในการเผยแพร่ความรู้ต่างๆ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้ทราบวิธีการสร้าง Blog การตกแต่ง Blog และวิธีการนำเสนอบทความที่น่าสนใจบนเว็บไซต์ การลิงค์บทความต่างๆไปยังเว็บไซต์อื่นๆ และด้วยวิธีการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า หาข้อมูล และแก้ปัญหาด้วยตนเอง ได้ลองผิดลองถูก โดยอาจารย์เป็นเพียงผู้ให้คำแนะนำ เพียงแค่ระยะเวลาไม่นานก็ทำให้เกิดความเข้าใจและรู้จัก Blog มากยิ่งขึ้น